แจกทริคเลือกซื้อผ้าปูที่นอนอย่างไรไม่ให้พลาด แถมนอนหลับสบายทั้งคืน

การเลือกผ้าปูที่นอนมีความสำคัญพอๆ กับคุณภาพของที่นอน ปัจจุบันผ้าปูที่นอนมีความหลากหลายทั้งเนื้อผ้า ลวดลาย และราคา แล้วผ้าปูที่นอนแบบไหนที่เหมาะกับคุณ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำถึงสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ในการเลือกผ้าปูที่นอน เพื่อเลือกให้เหมาะสมและเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกซื้อผ้าปูที่นอนให้ถูกใจได้อย่างง่ายๆ กันค่ะ

1. เลือกขนาดผ้าปูที่นอนให้ตรงกับขนาดที่นอน

สำรวจที่นอนและเตียงว่ามีขนาดเท่าไหร่ เมื่อทราบขนาดที่แน่นอนแล้ว ก็มาเริ่มเลือกผ้าปูที่ขนาดเหมาะพอดีกับที่นอน ไม่ควรใช้ผ้าปูที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าที่นอน เพราะจะทำให้ผ้าไม่เรียบตึง เมื่อใช้งานจริงและยังทำให้ผู้นอนรู้สึกไม่สบายตัว ขณะนอนหลับอีกด้วย
ขนาดผ้าปูที่นอน ดังนี้
• Single fitted sheet 42 X 78 นิ้ว (3.5 X 6.5 ฟุต)
• Queen fitted sheet 60 X 78 นิ้ว (5 X 6.5 ฟุต)
• King fitted sheet 72 X 78 นิ้ว (6 X 6.5 ฟุต)

2. เลือกผ้าปูที่นอนจากวัตถุดิบที่ใช้ในการทอ


เส้นใยที่ใช้ในการทอ โดยทั่วไปแล้วจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ
» เส้นใยที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ 100% อาทิเช่น เส้นใยที่ทำมาจากฝ้าย (Cotton) เส้นใยที่ทำมาจากไหม (Silk) เส้นใยที่ทำมาจากใยไผ่ (Bamboo) เป็นต้น
» เส้นใยที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ 100% อาทิเช่น เส้นใย 100% Polyester เส้นใย Microfiber
» เส้นใยที่ทำมาจากเส้นใยผสม คือ การที่นำส่วนผสมเส้นใยธรรมชาติมาผสมเข้ากันกับส่วนผสมของเส้นใยสังเคราะห์แล้วปั่นออกมาเป็นเส้นใยผสม ซึ่งมีหลากหลายชื่อที่ใช้เรียกกันในท้องตลาด

3. เนื้อผ้าปูที่นอน
ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะชนิดของเนื้อผ้าที่แตกต่างกันจะผลต่อคุณภาพของผ้าปูโดยตรง ในปัจจุบันมีเนื้อผ้าให้เลือกหลากหลาย ผ้าแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป

• ผ้าฝ้าย (Cotton) : เนื้อผ้านุ่ม ช่วยในการซับเหงื่อ ดูดซับความชื้น ระบายอากาศและความร้อนได้ดี ทำความสะอาดง่าย ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง

การทำความสะอาด : นำผ้าปูไปซักด้วยเครื่องซักผ้า จากนั้นนำไปตากแดดหรือใส่เครื่องอบผ้าที่อุณหภูมิต่ำ ป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าแข็งหรือหดตัว

Tip: อาจใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อช่วยรักษาเนื้อผ้าให้นุ่มน่าสัมผัส และไม่แข็งกระด้าง

• ผ้าไหม (Silk) : เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้า จะมีลักษณะอ่อนนุ่ม เป็นมัน เหนียว ยืดหยุ่นตัวดี ดูดซับความชื้น เนื้อผ้าดูหรูหราเป็นมันแวววาว ราคาค่อนข้างแพง ซักรีดยาก น้ำหนักจะเบาและค่อนข้างยับง่าย

การทำความสะอาด : นำผ้าไหมใส่ลงเครื่องซักผ้า แล้วกดเลือกโปรแกรมการซักแบบผ้าเนื้อบาง (Delicate wash) หลังจากซักเสร็จแล้ว ให้นำผ้าออกไปพาดไว้ที่ราวเพื่อตากแดดให้แห้ง แต่อย่าใช้ไม้หนีบเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผ้าไหมเป็นรอยได้ค่ะ

• ผ้าใยไผ่ (Bamboo) : นุ่มนวล เงางาม มีลวดลายที่เกิดจากธรรมชาติของเส้นใย สามารถดูดซับน้ำและความชื้นได้เป็นอย่างดี เส้นใยโปร่งระบายอากาศได้ดี ต้านการเจริญของแบคทีเรียได้ดีมาก

การทำความสะอาด : ควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนเท่านั้น ห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อรักษาคุณภาพควรซักด้วยมือ หรือถ้าต้องการซักด้วยเครื่องควรใส่ถุงซักผ้า เลือกโหมดถนอมผ้าที่อุณหภูมิน้ำไม่เกิน 40 องศาเท่านั้น ตากด้วยลมเย็น ห้ามอบแห้งด้วยลมร้อน

• ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์ (Poly-cotton) : เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี แม้จะไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่าผ้าฝ้ายแท้ แต่ฝ้ายผสมใยสังเคราะห์จะยับยากกว่าผ้าฝ้ายแท้ และราคาถูกกว่า

การทำความสะอาด : ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์เป็นผ้าที่ทำความสะอาดง่าย สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าและปั่นแห้งได้เลย

• ผ้าซาติน (Satin) : เนื้อผ้าค่อนข้างหนา เนียนนิ่มลื่นเย็นสบาย ผิวผ้าลื่นเป็นเงา เรียบหรู ตัวผ้ามีน้ำหนัก ทิ้งตัวดี

การทำความสะอาด : ต้องใช้ความละเอียดอ่อน เพื่อถนอมเนื้อผ้าให้ใช้ได้นานที่สุด จึงนิยมซักด้วยมือโดยใช้น้ำเย็นผสมผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนต่อเนื้อผ้า จากนั้นจึงนำไปอบในอุณหภูมิต่ำหรือตากในที่ร่ม

นอกจากชนิดผ้าที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของผ้าปูที่นอนที่แตกต่างกันแล้ว ความหนาแน่นของเส้นด้ายในการถักทอก็มีผลต่อราคาและคุณสมบัติของผ้าปู โดยผ้าปูที่นอนคุณภาพดีควรมีความหนาแน่นของเส้นด้ายในการถักทอ (Thread count) ยิ่งมีจำนวนเส้นด้ายที่ทอมากเท่าไหร่ ความนุ่นสบายของผ้าปูที่นอนนั้นก็จะมีมากเท่านั้น

4.การเลือกโทนสี ผ้าปูที่นอน
ห้องนอนถือเป็นห้องที่เราใช้เวลาพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ จึงควรใส่ใจเรื่องสีเป็นพิเศษ จากผลการวิจัยของสถาบันต่างๆ มักพบว่า สีมีผลต่ออารมณ์ของผู้ที่อยู่อาศัยทั้งในด้านจิตใจ หรือระดับพลังงาน สีที่แตกต่างกันสามารถปรับสภาพอารมณ์ให้คึกคักหรือสงบลงได้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนสีห้องบ่อยๆ ก็น่าจะสิ้นเปลืองอยู่ไม่น้อย ลองเลือกวิธีที่ง่ายกว่าเพียงเลือกเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เหมาะกับสภาพห้องและสภาพอารมณ์ดีกว่าค่ะ

เพิ่มความสดใสให้ห้องนอนด้วยผ้าปูที่ลายดอกไม้ โทนสีส้มหรือสีเหลืองที่ช่วยให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย มีความสุขมากขึ้นแถมยังทำให้ห้องสว่างขึ้นด้วยนะ

เรียบหรูๆ ดูดีแบบเคร่งขรึม อย่างผ้าปูที่นอนสีดำหรือสีเข้มๆ ซึ่งเหมาะกับห้องโล่งๆ ไม่เน้นการตกแต่งมากมายและเป็นสไตล์คลาสสิก ดูเท่ไปอีกแบบเหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

เน้นเรียบๆ สีขาวเบสิค เป็นสีที่ทำให้ห้องกว้างขึ้นและทำให้บรรยากาศรอบข้างดูผ่อนคลาย ดูสว่าง ดูสดชื่น หากห้องนอนได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอในยามเช้าก็จะทำให้รู้สึกมีความสุขมากเป็นพิเศษด้วย

ลายกราฟฟิค ให้พลังทางความคิดสร้างสรรค์ และแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองสูงสร้างแรงบันดาลใจในยามเช้าที่ตื่นนอนได้ดี ในด้านของอารมณ์สีโทนเย็นเพื่อความผ่อนคลายจะให้ความรู้สึกเย็น เพิ่มบรรยากาศของการพักผ่อนไปในตัว

จากคำแนะนำที่บอกไปคงพอจะเป็นไอเดียในการซื้อผ้าปูที่นอนให้กับคุณได้บ้าง เพราะผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนสามารถสะท้อนตัวตนของผู้ใช้ผ่านเครื่องนอนได้ สามารถแวะช้อป เทสโก้ ผ้าปูที่นอนที่มีสีให้เลือกมากกว่า 30 สี เหมาะกับการแต่งห้องทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะห้องเล็กห้องใหญ่ เลือกแต่งได้ไม่ซ้ำ แถมช่วยให้หลับสบายด้วยเส้นใยไมโครไฟเบอร์ความละเอียดถึง 340 เส้น/10 Sq.cm. พิเศษ! ชุดผ้าปูที่นอน เทสโก้ ขนาด 3.5 ฟุต ราคาพิเศษ 399 บาท จากปกติ 599 บาท และขนาด 5,6 ฟุต ราคาพิเศษ 599 บาท จากปกติ 899 บาท ราคาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2563 - 28 ตุลาคม 2563 เท่านั้น

ขอบคุณที่มา
https://home.kapook.com/view84628.html
https://www.banidea.com/how-to-choose-bedcover/
https://www.officemate.co.th/blog/เทคนิคเลือกผ้าปูที่นอน/
https://www.baanlaesuan.com/144067/diy/easy-tips/bed-sheets